ยา และ เซ็กซ์ พอเอ่ยถึงเรื่องยาและเซ็กซ์ขึ้นมา
หลายคนมักจะคิดไปถึง ยาปลุกเซ็กซ์ หรือยาบำรุงกำลังทางเพศ
เนื่องจากเวลาคนเราเกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือเซ็กซ์เสื่อม
มักจะพยายามสรรหายาดีๆ เพื่อมาแก้ไขภาวะเซ็กซ์เสื่อมให้กลับมาดีดังเดิม
หารู้ไม่ว่ายาบางตัวที่คิดกันว่าน่าจะช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศ
และความต้องการทางเพศให้ดีขึ้นนั้น บางครั้งไม่ออกฤทธิ์สมดังที่คาดหมาย
ซ้ำร้ายอาจไปกดอารมณ์ทางเพศของคุณอีกด้วย
ยาต่างๆ ที่เราใช้รักษาโรคทั่วไปทุกวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นยาบรรเทาอาการคัดจมูกรักษาโรคหวัด ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร
ยารักษาความดันโลหิตสูง หรือแม้กระทั่ง
คนจำนวนไม่น้อยอยากทราบว่ายาที่รับประทานอยู่ว่าทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้หรือไม่
ดิฉันจึงอยากถ่ายทอดเรื่องยาที่ทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
เพื่อให้คุณได้รับความรู้ ความเข้าใจ
และรู้วิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเมื่อสงสัยว่าเกิดอาการเซ็กซ์เสื่อมจากยา
และก่อนที่จะกล่าวถึงยาที่ทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น อยากจะย้ำถึง
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
เสียก่อนจะได้เข้าใจว่าภาวะนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและมีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง
ในเพศชาย หมายถึงภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์
การหลั่งผิดปกติ หรือการมีความต้องการทางเพศลดลง ที่เรียกว่า Erectile Dysfunction; ED หรือ Impotence
พบมากตามอายุ ร้อยละ 5 ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 40
ปี สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปีจะพบได้ร้อยละ
15 ถึง 25
ในเพศหญิง หมายถึง
การไม่มีความต้องการทางเพศหรือความต้องการทางเพศลดลง
ไม่มีอารมณ์เวลาถูกกระตุ้นทางเพศ รู้สึกอึกอัดเวลามีเพศสัมพันธ์
หรือไม่ถึงจุดสุดยอด เหล่านี้เป็นกลุ่มที่เรียกว่า Female Sexual Dysfunctionโดยไม่ขึ้นกับอายุ
แต่ส่วนใหญ่เกิดในช่วงวัยทองในระยะที่ฮอร์โมนเริ่มจะลดลง
ส่วนมากภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไม่ว่าจะในเพศชายหรือหญิงมักเป็นแค่ชั่วคราว
แต่หากเป็นถาวรแสดงว่าอาจจะมีสาเหตุทางด้านจิตใจหรือทางร่างกาย สาเหตุทางด้านจิตใจ
ได้แก่ ความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงาน ครอบครัว
ความกลัวความล้มเหลวทางเพศสัมพันธ์ หรือถูกตำหนิจากคู่ครองทำให้หมดความมั่นใจ
จนนำไปสู่ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ สาเหตุทางร่างกาย เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น
การมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังที่มีผลต่อหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ หรือกล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศ
เช่น โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง
การผ่าตัดและอุบัติเหตุที่มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
การได้รับอุบัติเหตุที่อวัยวะเพศ เส้นประสาทไขสันหลัง กระเพาะปัสสาวะ
กระดูกเชิงกราน พฤติกรรมการดำรงชีวิตได้แก่ การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา
คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราจะเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้สูงกว่าคนปกติที่ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา
การออกกำลังกายผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอจะพบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
และการได้รับบางชนิด
มียาหลายกลุ่มที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ได้แก่
ยารักษาความดันโลหิตสูง ยาที่มีผลทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวเรียงตามความถี่ของรายงานการเกิดเซ็กซ์เสื่อม
ดังนี้ กลุ่มยาขับปัสสาวะที่ใช้ในโรคความดันโลหิตสูง เช่น Hydrochlorothiazide, Spironolactone พบได้บ่อยที่สุด
รองมาเป็น ยาในกลุ่ม Beta-blocker เช่น Propranolol,
Atenolol, Metoprolol รองลงมาเป็น ยากลุ่ม Alpha-blocker เช่น Prazosin และยากลุ่มอื่นๆ เช่น Hydralazine,
Methyldopa, Enalapril ตามลำดับ
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยาที่ใช้ในการรักษาผู้ที่มีปัญหาทางจิต
ส่วนใหญ่จะมีกลไกการออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบประสาทหรือสมองส่วนกลางทำให้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าอารมณ์ลดลง
เมื่อมีสิ่งกระตุ้นอารมณ์เพศเกิดขึ้น ความต้องการทางเพศจะลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง
และการตอบสนองจะน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ยามาก
ซึ่งเกิดได้ทั้งชายและหญิงที่ได้รับยากลุ่มนี้
แต่ชายจะมีผลทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีปัญหาเรื่องหลั่งได้
นอกจากนี้การรับประทานยากล่อมประสาทและยาคลายเครียดในกลุ่ม Benzodiazepine เช่น Lorazepam,
Diazepam เมื่อใช้ไปนานๆ อารมณ์เพศจะลดลง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ และอาจไม่ถึงจุดสุดยอดได้
ยาที่ใช้รักษาโรคระบบทางเดินอาหาร คนที่เป็นโรคกระเพาะลำไส้ส่วนใหญ่มักจะได้รับการรักษาด้วยยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและยาเคลือบกระเพาะ
ยาลดการหลั่งกรด เช่น Cimetidine และ Ranitidine นั้นมีผลต้านฤทธิ์กับฮอร์โมนเพศชาย
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเกิดอารมณ์ทางเพศ
เมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกต้านฤทธิ์ความต้องการทางเพศจะลดลง
เหตุการณ์นี้เกิดได้ทั้งชายและหญิง
เพราะอารมณ์เพศหญิงนั้นมาจากฮอร์โมนเพศชายจำนวนเล็กน้อยที่ร่างกายสร้างขึ้น
เมื่อหยุดรับประทานยาไปสักระยะหนึ่งแล้วอาการต่างๆ ก็จะกลับเป็นปกติ
ยาเคมีบำบัด และยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาเคมีบำบัดบางตัว เช่น Flutamide, Bicalutamide หรือ ยารักษาพากินสัน
เช่น Bromocriptine, Levodopa, Trihexyphenidyl จะออกฤทธิ์ต้านกับฮอร์โมนเพศชาย
และทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงได้ ด้วยเหตุผลเดียวกับยาลดการหลั่งกรด
ยาบรรเทาอาการปวดและอักเสบ ยาที่ใช้บรรเทาปวดและอักเสบในคนที่เป็นโรคข้อและกล้ามเนื้อ
มีรายงานว่าทำให้เกิดการหลั่งผิดปกติในเพศชาย
รวมทั้งลดความต้องการทางเพศและเกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ด้วยในบางคน
ตัวอย่างยาที่มีรายงาน เช่น Indomethacin,
Ibuprofen, Naproxen
ยาลดน้ำมูกแก้คัดจมูก ยาลดน้ำมูกและยาบรรเทาอาการคัดจมูกบางตัว
จะทำให้หลอดเลือดแดงหดตัว แต่ยานั้นมิได้ออกฤทธิ์แค่ที่โพรงจมูกเท่านั้น
ยังสามารถไปออกฤทธิ์กับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศด้วย หากใช้นานๆ
ก็อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงยังอวัยวะเพศลดลง เมื่อไม่มีเลือดไปคั่งบริเวณอวัยวะเพศแล้ว
ในผู้ชายก็ไม่เกิดการแข็งตัว ส่วนผู้หญิงอารมณ์เพศก็จะลดลงไปด้วยเช่นกัน
ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Pseudoephredine,
Diphenhydramine, Hydroxyzine, Phenylephrine
เมื่อสงสัยว่ายาเป็นสาเหตุให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
จะทำอย่างไร?
คุณคงสงสัยว่าแล้วจะทำอย่างไรหากสงสัยว่ายาที่กำลังรับประทานทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นเพื่อปรับเปลี่ยนแผนการรักษา
ยาอาจเป็นสาเหตุของภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้
อย่าเพิ่งโทษว่ายาเป็นสาเหตุจนกว่าจะได้ปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อน และห้ามหยุดรับประทานยาที่คุณสงสัยว่าทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศโดยเด็ดขาด เพราะยานั้นอาจเป็นยาที่จำเป็นต่อการรักษาโรคของคุณหากขาดยาอาจทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้
และเมื่อทราบแน่ชัดว่ายาที่รับประทานไม่ใช่สาเหตุของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางของระบบทางเดินปัสสาวะ(Urologist) ทั้งนี้เพื่อค้นหาสาเหตุว่าอะไรที่เป็นต้นตอของปัญหา
และทำการรักษาต่อไป
ติดต่อสอบถาม 085-9083178 วราพร