มะเร็งปากมดลูก – เป็นมะเร็งชนิดเดียวเท่านั้นที่ป้องกันได้
เพราะสามารถตรวจค้นหาความผิดปกติได้ง่าย นอกจากนั้น
ยังเป็นมะเร็งที่ใช้เวลาในการกลายพันธุ์ค่อนข้างช้ำ โดยใช้เวลาอย่างน้อย 5
– 7 ปี เนื้อที่ผิดปกติจึงจะกลายเป็นมะเร็ง
แต่ถ้าหมั่นตรวจเช็คร่างกายก็จะลดโอกาสของการเกิดมะเร็งได้
•ตกขาวมีกลิ่น มีเลือดออกทางช่องคลอด
หรือตกขาวลักษณะคล้ายน้ำคาวปลา ถ้าเป็นมากอาจถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด
ถ่ายปัสสาวะลำบาก หรือมีอาการผิดปกติของระบบขับถ่ายอุจจาระได้
•มีเลือดออกผิดปกติหลังประจำเดือนหมด
เลือดอาจออกเป็นน้ำหรือมีเลือดปนตกขาวในระยะแรก
ต่อมาจะเป็นเลือดมากขึ้นและพบได้บ่อยหลังประจำเดือนหมด แต่อาจพบได้ในวัยใกล้ๆ
หมดประจำเดือนก็ได้
•ความรู้สึกปวดหน่วงในท้องน้อยโดยเฉพาะเวลาเย็น
สตรีบางคนอาจมีอาการเจ็บเสียวทางข้างซ้าย-ขวาของท้องน้อยได้ บางครั้งเจ็บปวดมากถึงขนาดตัวงอ
ทั้งนี้เนื่องจากเส้นพังผืดที่ยึดมดลูกอาจถูกดึงรั้ง
เนื่องจากขนาดของเนื้องอกที่โตขึ้นทำให้มดลูกเอียง หรือถ่วงมดลูกไปทางใดทางหนึ่ง
•อาการปวดท้องโดยเฉพาะช่วงระหว่างมีประจำเดือนและปัญหาเกี่ยวกับเลือดระดูมาบ่อยหรือมานานและมีจำนวนมาก
มักพบในสตรีที่มีเนื้องอกแทรกอยู่ในผนังมดลูกหรือยื่นเข้าไปข้างในโพรงมดลูก
ถ้าเนื้องอกยื่นออกมานอกมดลูกมักไม่เกิดอาการผิดปกติ
นอกจากจะไปกดอวัยวะอื่นในอุ้งเชิงกรานหรือขั้วของเนื้องอกบิดเกลียว
•เนื้องอกนี้อาจทำให้สตรีมีระดูยาวนาน
และมากพอจนทำให้เกิดโลหิตจาง คือ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ซูบซีด
และเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้แพทย์ตัดสินใจทำการผ่าตัด
ขนาดของเนื้องอกรวมทั้งตำแหน่งของมันอาจไปกดกระเพาะปัสสาวะ
เบียดเนื้อที่ในกระเพาะปัสสาวะให้เล็กลง
ซึ่งทำให้สตรีผู้นั้นมีปัญหาทางปัสสาวะบ่อย
หรือถ้าก้อนเนื้องอกไปกดตรงท่อไตที่นำปัสสาวะจากไตลงสู่กระเพาะปัสสาวะ
อาจทำให้เกิดปัสสาวะคั่งในไตจนเกิดปัญหาเกี่ยวกับไตได้
•มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
(ต่ำกว่า 20 ปี)
•มีคู่ร่วมเพศสัมพันธ์หลายคน
•มีการอักเสบของปากมดลูก
เนื่องจากการติดเชื้อ Human Papilloma Visus
•สตรีที่สูบบุหรี่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก
มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
•ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ติดต่อสอบถาม 085-9083178
ดูข้อมูล http://pannfitleadyx.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น